[Mini review] Cheap watercolor palette พาเลตสีน้ำราคาประหยัด

เราเคยดู Youtube หัวข้อ Cheap watercolor challenge
แล้วมีพาเลตยี่ห้อ Prang ที่มีหลายคนบอกว่าเป็นสีที่คุณภาพดีราคาถูกมากๆ
ด้วยความที่เราหาไม่ได้ แต่ไปเจอแบบที่ใกล้เคียงกันมา 2 พาเลตค่ะ

Crayola washable watercolors

ยี่ห้อนี้คุ้นตาจาก marker ที่มีหลากหลายสี แถมราคาถูกจากอเมริกา
ลักษณะเป็นแบบหลุมวงรี ทั้งหมด 16 สี ราคา235 บาท ได้มาจาก shopee ค่ะ

แอบเห็นใน B2S ขาย 250 บาทค่ะ

Safety information ค่ะ ปลอดภัยไร้สารพิษ

เปิดดูสีข้างใน ลักษณะ pan เป็นวงรี มีทั้งหมด 16 สี

Swatch สีค่ะ 

โดยรวมแล้ว เป็นสีสำหรับเด็กค่ะ ไม่ค่อยเป็นสีน้ำเท่าไหร่นะคะ

ให้ 2/5 ค่ะ 

Patty

อันนี้เราได้มาจาก B2S ค่ะ ด้วยราคา 59 บาท เราก็เฮ้ยยย ถูกมากก

แต่คงเหมาะกับเด็กๆ เอามาระบายขำๆค่ะ

เป็นแบบหลุมวงรีเหมือน Crayola มีทั้งหมด 16 สี

Swatch สี

สีค่อนข้างทึบค่ะ แต่เป็นแค่บางสีนะคะ ตามรูปที่ swatch เลยค่ะ
มีสีเนื้อที่เราค่อนข้างชอบนะคะ ให้สีที่อ่อนเป็นสีเนื้อได้จริงๆเลย

ถ้าเปรียบเทียบ 2 พาเลต เราให้ Patty ค่ะ อารมณ์สีน้ำมากกว่า
แถมยังราคาถูกกว่า 4 เท่า
เรายังไม่ถอดใจหายี่ห้อ Prang มาลองค่ะ แต่จะหายังไงนี่แหละ 55+

XOXO

[Hual] Wood block stamps

เคยโดนสิงจาก Instagramer มั๊ยคะ เราคนนึงค่ะ โดนสิงซะจนบ้าคลั่ง

คราวนี้เราโดนสิงด้วย stamp สวยๆ ถ่าย flatlay บน planner งามๆค่ะ

เราชอบเครื่องเขียนแนววินเทจๆ แบบผู้ใหญ่ๆหน่อยค่ะ

เป็นลายสมุดโน้ต ลายเส้นวินเทจๆประมาณนั้น

ถ้าแนว Disney หรือ San x จ๋า แบบว่าลวดลายมุ้งมิ้ง ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ค่ะ

แล้ว wood block stamp นี่ตอบโจทย์มากๆ ใช้เป็นพร๊อพถ่ายรูปก็เก๋มากกก

เคยเห็น instagramer บางคน ทำชั้นวางเต็มผนังเลย

เราเคยเจอที่ B2S ขนาดประมาณไม่เกิน 1”x1” ขายตั้ง 250 บาท แต่ลายสวยมากๆ

คือเราอยากได้เยอะไง งกนั่นเอง

ไปเจอใน IG ร้าน srstudent2524 ขายอันละ 65-75 บาท ลายต้นไม้แบบที่อยากได้เลย

ความอยากได้ไม่หยุดเพียงแค่นี้ ใน shopee มีร้านนึงที่ขายจัดมาอีกค่ะ

ราคาต่างกันไป แต่รวมๆแล้วรับได้ค่ะ

ส่วนนี่ได้มาจาก Aliexpress ค่ะ ราคาก็ $0.90 - $1.20 ค่ะ

พอได้มาแล้วชอบมากๆค่ะ เดี๋ยวจะต้องหาซื้อมาอีก อิอิ

เจอกันใหม่นะคะ 

XOXO

[Love me, Love my dog] EP.1 Nice to meet you. Lucy!

วันนี้ขอเปิดตัว Series ใหม่ เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงตัวแรกในชีวิต

(น้องๆปลาหางนกยูงทั้งหลายที่เลี้ยงอยู่ไม่นับแล้วกันนะคะ)

เราอยากจะบันทึกไว้เป็นความทรงจำเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงของเราเองค่ะ 

ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ เราไม่เคยคิดอยากจะเลี้ยงน้องเลย

แต่เมื่อปีที่ผ่านมาได้อิทธิพลจากน้องสาวที่เค้าชอบแมวมากกก

เราก็ว่าน่ารักดี จนได้ไปคาเฟ่แมว โอ๊ย น้องน่ารักมากๆๆๆ

จากนั้นไม่ว่าจะเจอน้องแมวที่ไหน เราก็มองว่าน่ารักไปหมดทุกตัวเลยค่ะ

ทั้งแมวเลี้ยง แมวจรจัด น้องน่ารักมากๆ

นอกจากน้องสาวเราก็ยังมีหลานสาวเราด้วย นางชอบแมวมากกก

เห็นแล้ววิ่งเข้าใส่ แบบไม่กลัวเลยค่ะ อยากได้แมวมานานแล้วแต่นางยังเด็ก

เดือนธันวาคม ปีที่แล้ว อายุครบ 9 ขวบ คุณพ่อเลยจัดแมวให้ 1 ตัว

ชื่อ Shadow แมวเด็กน้อย เป็นผู้ชายค่ะ

ความที่อยากเลี้ยงแมว แต่ไม่เคยเลี้ยง บวกกับว่าเราอยู่บ้านกันสองคน

กลางวันไปทำงาน กว่าจะกลับก็เย็นแล้ว

ไหนเวลาไม่อยู่บ้านจะปล่อยน้องไว้คนเดียวก็สงสาร

อีกทั้งคุณแฟนไม่ไว้เนื้อเชื่อใจเรา หาว่าจะเห่อเลี้ยงได้ไม่นาน กลัวมาพังข้าวของที่บ้าน

โครงการเลี้ยงแมวเลยตกไปค่ะ เสียจายยยย อดเลี้ยงน้องงงง

ทีนี้วันจันทร์ที่ 23 เพื่อนของแฟนเราโทรมาหา ตอนนี้เลี้ยงน้องหมาบีเกิ้ล อายุ 5 เดือนอยู่

แต่ตัวเค้าไม่มีเวลาเลี้ยง เลยอยากส่งต่อให้เพื่อนที่พอจะเลี้ยงได้

พอรู้ว่าเป็นบีเกิ้ล เราบอกเลยว่า No way 

เคยเห็นพี่ที่รู้จักเลี้ยง คือน้องซนมากก Alert มากๆๆ แต่เพื่อนแพนเค้าก็วอแว

แฟนเราเลยบอกว่า ไปดูก่อนก็ได้ ไม่ถูกชะตาก็ไม่ต้องรับ

วันที่ 24 เราเอามาบอกพี่ที่ทำงานซึ่งเค้าเลี้ยงปอมอยู่ 2 ตัว

เค้าบอกว่า เอาดิ ฟรีนะเฟ้ยย เค้าขายกันหลายพัน 

ถ้าเลี้ยงไม่ไหว เดี๋ยวพี่รับต่อเอง อ่ะ เราตกลงลองดู

วันที่ 25 กลับบ้านมาคิดๆๆ เอ๊ะ จะโอมั๊ยนะ คุยกะแฟน ไม่เอาดีกว่าเนอะ 

ถ้าเราเลี้ยงเค้าไม่ดีพอ ก็น่าสงสารเค้านะ แต่คุณแฟนเริ่มมีอาการซึมๆ

เหมือนเสียดาย อยากจะเลี้ยง เราก็คุยกัน ถาพี่อยากได้ เราเลี้ยงก็ได้นะ

ความสุขของพี่ หนูยอมเลี้ยงเอ้า แต่เค้าก็ปฏิเสธ ไม่เอาละ lineบอกเพื่อนว่าไม่เอาแล้ว

โอเค คิดว่าจะจบแล้วนะ ยังค่ะยัง

วันที่ 26 เย็นวันนั้นแฟนเราไปวิ่งในหมู่บ้าน

เจอคนในหมู่บ้านพาน้องบีเกิ้ลออกมาวิ่งออกกำลังกาย 

อยากได้อี๊กกก พูดถึงอยู่นั่น แล้วก็หงอยๆ อยากจิได้น้องหมา เราก็ โว๊ะ จะเอาไงกันแน่เนี่ยพี่

วันที่ 27 Line มาหาเราแต่เช้า บอกว่าเย็นนี้ไปดูน้องหมากัน เราเลยตามเลย

ตกเย็นเลิกงานตรงดิ่งไปบ้านเพื่อนแฟน เจอน้องนั่งอยู่นอกบ้าน แต่ยังอยู่ในรั้ว ฝนก็ตกปรอยๆ 

หลังคาก็ไม่ได้กันฝนอะไรเล้ย น่าสงสารมากๆ เจอกันครั้งแรก ไม่เห่าเลยจ้า 

เดินมาหาร้องหงิงๆ โอ๊ยย ลูกเอ๊ย หนูน่าเอ็นดูมาก น่าสงสารมากๆๆๆ

ประตูรั้วไม่ได้ลอค เลยให้แฟนโทรหาเพื่อนว่าเข้าบ้านไปได้มั๊ย 

พอเข้าไปได้ น้องไม่ร้องไม่เห่าเลย มีดมกลิ่นบ้าง แต่โอเคเลยกับการเจอกันครั้งแรก

สักพักเพื่อนแฟนก็กลับบ้านมา พยายามหว่านล้อมสุดฤทธิ์ สุดท้ายจบที่ตกลง รับน้องไป

อ่อ ลืมบอกว่าน้องเป็นผู้หญิง ชื่อ ลูซี่ (แอบไม่ชอบชื่อนะ แต่ทำไงได้ละ) 

แล้วเพื่อแฟนก็แนะนำให้รู้จักกับเพื่อนบ้านตรงข้าม ชื่อคุณอาร์มกับคุณโย 

เพื่อคู่รักที่รักน้องหมามากๆๆๆๆ เค้าเลี้ยงพิทบูล 2 ตัว ตัวใหญ่มากๆ 

เค้าก็มาลาลูซี่ พร้อมกับแนะนำของต้องห้าม กับเคล็ดลับการเลี้ยงน้องเล็กๆ น้อยๆ

จดจำแทบไม่ทัน เลยขอเบอร์เลยแล้วกัน 555+ 

จากนั้นพากันไปโรงพยาบาลสัตว์น้ำเย็นที่อยู่แถวๆนั้น 

พาน้องไปฉีดวัคซีนก่อน ระหว่างทางชีหลับจ้า กรนเลยอ่ะ ตลก 

เข้าไปก็ทำประวัติน้องกับเจ้าของ น้องอายุ 5 เดือน หนัก 5.9 kg 

ระหว่างที่รอเราก็สังเกตคนที่พาน้องมาหาหมอ อุ้มไว้กับตัวแบบทนุถนอมมากๆ

เจ้าหน้าที่ก็พูดกับน้องเหมือนพูดกับเด็กๆ 

พอถึงเวลาเจ้าหน้าที่ให้เข้าไปในห้องด้วย คือเค้าคงดูออกเลยว่าเราไม่เคยเลี้ยงน้อง 555+

เงอะๆ งะๆ มาก ขอให้เค้าตัดเล็บให้เล็บยาวมาก

เค้าก็ตัดไปสอนไปด้วย ห้ามตัดตรงที่เป็นเนื้อสีชมพู ไม่งั้นเลือดออกนะ

คุณหมอเข้ามาก็เชคฟัน บอกว่าฟันน้ำนมยังไม่หลุด เชคหูด้วย

วันนี้ฉีด วัคซีนรวม กับวัคซีนพิษสุนัขบ้า 2 เข็ม ลูซี่เก่งมาก ไม่ร้องเลย

จากนั้นคุณหมอให้ออกไปเดินเล่น 15 นาที เพื่อดูว่าแพ้วัคซีนรึป่าว

จ่ายค่าวัคซีนไป 430 บาท ระหว่างนั้นก็ไปดูสายจูง เลือกมาได้อันนึง 190 บาท

ให้เจ้าหน้าที่ช่วยใส่ให้ไปอี๊กก 555+

บอกแล้วว่าเป็นคุณแม่มือใหม่ 

ครบ 15 นาทีไม่มีอาการกลับบ้านได้

คุณหมอนัดอีก 1 เดือน (27 พ.ค.) ฉีดวัคซีนรวม กับวัคซีนพิษสุนัขบ้าอีกอย่างละเข็มด้วยละ

ลืมบอกไปว่าเจอคุณอาร์มกับคุณโยพาน้องมาหาหมอ

น้องตัวใหญ่มากจริงๆ แบ๊วๆ มาก ไม่เคยเข้าใกล้พิทบูลขนาดนี้ นึกว่าจะดุ หึหึ แบ๊วเวอร์

กลับบ้านเพื่อนแฟน ถึงเวลาร่ำลา ได้เวลาไปอยู่ด้วยกันแล้วนะ ลูซี่

อ่อ เจ้าของเก่าให้แค่อาหารเม็ดมาครึ่งถุงกับเชือกเอาไว้กัดเล่น ปลอกคอก็เอาคืน แอบเพลีย

กลับถึงบ้านก็ให้เจอแม่ เราเอาไว้ในบ้าน คืนนี้นอนห้องน้ำไปก่อนนะลูก 

เดี๋ยวแม่หากรงมาให้เป็นห้องนอนให้

DAY 1

เช้าวันต่อมา ฝนตกหนักมากเพราะมีพายุฤดูร้อน ตกตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้

แต่ตื่นมา 6 โมงเช้าก็ตกแล้ว

อาบน้ำแต่งตัว พาลูซี่ออกมา หมาดื้อ บทจะ alert ก็เยอะเกิน

บทจะนอนก็นอนหลับเป็นชั่วโมงๆ

เอากล้องมาถ่ายรูป อร๊ายยย ลูกแม่น่าร้ากกก >.<

ชอบรูปนี้แหละ

พอสายๆ เราเลยออกไปหาซื้อของสำหรับน้องหมา

ทั้งตาข่ายเอามาปิดรั้ว กรง อาหารเม็ด ขนม ของเล่น ปลอกคอใหม่ ชามใส่อาหาร

ตะเวนหาร้านที่ขายกรงทั้งๆที่ฝนตกหนัก รถก็ติด

กลับบ้านมาเรากะคุณแฟน เอาตาข่ายมาปิดรั้ว ลูซี่จะได้วิ่งเล่นในบ้านได้

ฝนไม่ยอมหยุดตกซะที เลยติดทั้งๆ ที่ผนตกนี่แหละ กางร่มไปด้วย

น้องหมาก็ นอน กิน อึ ฉี่ เล่น (ชอบเล่นไล่กัดมากๆ) แล้วก็นอนอีกรอบ 

วนลูปอย่างนี้ สบายจริงๆเลยลูก

วันนี้โดนเขี้ยวไปทีนึง เลือดออกเลย ดื้อเอ๊ยยยย

วันนี้ไม่ได้พาไปเดินเล่นเพราะฝนตกไปอี๊กกก ตกทั้งวันเลยให้ตายเถอะ

คืนนี้ลูซี่นอนในกรงด้วย เดินเข้ากรงโดยดี ฝันดีนะคะ

DAY 2

เช้าวันอาทิตย์ คุณแฟนไปทำงาน เราอยู่บ้านกับแม่ 

ลูซี่เลี้ยงง่ายมากเหอะ อากาศเย็นๆ ก็เคลิ้มหลับตรงพรมเช็ดเท้า

นอนสบายเลยยยย

วันนี้ฝนตกๆหยุดๆ เลยให้ออกนอกบ้านได้ แต่ยังอยู่ในรั้ว แม่เจ้า วิ่งรอบบ้านเลยจ้า

ตอนเย็นก็พาไปเดินเล่นครั้งแรก หว่าจะยอมให้ติดสายจูง รบกันอยู่พักนึง

พาเดินไปซอยข้างๆ ดมทุกสิ่ง เจอบ้านที่มีหมาก็เห่าทักทายพอประมาณ

เดินต่อไปอีกหน่อยไปสวน เดินไปเรื่อยๆ ชีเหนื่อยจ้า นอนแหมะกับพื้น ไม่ยอมเดินเลย

เป็นไงละ ซ่าดีนัก ผิดกับตอนออกบ้านเลย จนต้องอุ้มกลับ เจ้าหมาดื้อเอ๊ย

กลับบ้านคงเหนื่อยมากกก หลับเป็นตายเลย นอนกรนหนักมาก 55+

วันหลังต้องพาไปเดินอีก ใช้พลังให้หมดจะไม่ไล่กัดแม่อีก

หมดไปอีกหนึ่งวันกับลูซี่น้อย เข้ากรงแล้วหลับสนิทเลยลูกก

DAY3

วันจันทร์เราลางาน ไปดู Bruno Mars ไปตอน11โมง วันนี้ต้องปล่อยไว้กกับแม่

ก่อนไปเหมือนจะรู้ เลยเข้ามาคลอเคลีย ลูกเอ๊ยย แม่ห่วงเหลือเกิน

กว่าจะกลับบ้านเกือบตี 2 ตอนเข้าบ้านมามีครางนิดหน่อย แล้วหลับต่อ

DAY 4

เช้าวันแรงงาน

ตื่นแต่เช้า ช่างจะมาติดแอร์ห้องนอนแม่ จะเอาของมาไว้ก่อน 

นอนต่อไม่หลับแม้ว่าเมื่อคืนจะนอนเกือบตี 2 

เลยอาบน้ำแต่งตัว ลงมาหาเจ้าดื้อ ฝนตกอีกแล้ว วันนี้จะได้ติดแอร์มั๊ยนะ

ลูซี่ก็เล่นๆ นั่งๆ นอนๆ ตามปกติ วันนี้เราต้มฟักทองแล้วบดหยาบๆให้กินด้วย

ชอบอยู่นะ กินหมดชามเลย 

ตอนบ่ายๆ เราก็เบลอๆละ เลยนอน กว่าจะตื่นเกือบ 4 โมงเย็น

แล้วก็พาไปเดินเล่น วันนี้เดินออกนอกเฟส ไปตลาดนัดหน้าหมู่บ้าน เชื่อฟังดีมาก

แล้วก็เดินไปซอยข้างๆ ขากลับเข้าปากซอย ไม่ยอมเดินต่อ แหมะ อีกแล้ววว

ดื้อเอ๊ยยย ยังไง ก็ไม่เดิน ต้องได้อุ้มกลับ

พอถึงบ้านใหม่เล่นอยู่นอกบ้านก็ไม่เล่น เหนื่อยจริงอะไรจริง เลยพาเข้าบ้าน 

นอนเล่น กินข้าวกินน้ำ ไล่กัดแม่ ก็จะวนอยู่แค่นี้แหละ

พรุ่งนี้แม่ต้องไปทำงานแล้วนะลูก อยู่กับคุณยายดีๆนะคะ เป็นเด็กดี Good girl เน้อ

DAY 5

มาทำงาน ก็เป็นห่วงลูซี่มากมาย จะกัดของมั๊ย ยายจะเก็บอึให้รึป่าว 

ตื่นเช้ามาเอาออกจากกรง แล้วปล่อยไว้นอกบ้าน พอสายๆ แม่ก็เอาเข้าบ้านนะ

กลับถึงบ้าน 18.10 น. นั่งหน้าสลอนหน้าประตูบ้าน กระดิกหางดิ๊กๆๆๆ 

แล้วก็บ้าพลังเหมือนเดิม ชอบเล่นแรงๆอ่ะ

คุณแฟนพาไปเดินเล่น ได้แค่แปปเดียวก็กลับเพราะมืด แล้วฝนก็จะตกแล้ว

สิ่งที่กังวลคือการขับถ่ายไม่เป็นที่ โอ๊ย ปวดตรงไหนก็ถ่ายตรงนั้น 

พยายามฝึกอยู่ แล้วเรื่องงับมือ งับเท้าอีก ไม่ฟังเลย 

5 เดือนที่ผ่านมาไม่มีใครสอนเลยจิเนี่ยยยย

สรุปว่า 5 วันแรก ต้องมีการปรับตัวนิดหน่อย ทั้งน้องและพวกเรา

ต้องเรียนรู้กันอีกเยอะ เนอะ

ตอนนี้ก็เป็นห่วงมากๆ เข้าใจแล้วที่ว่าเลี้ยงหมาเหมือนเลี้ยงลูก เป็นอย่างนี้นี่เองนะ

เจอกันใหม่ EP.2 นะคะ

XOXO

[Review] SARASA clip 20 colors

ใครที่เป็นสายเครื่องเขียนคงไม่มีใครไม่รู้จักเจ้านี่เนอะ ปากกาเจลหลากสีสัน ลวดลายมีให้เลือกเยอะมากๆ เราไม่มีโอกาสได้ไปเลือกสีเอง เลยตกลงว่าถ้าอย่างนั้น ซื้อหมดมันเลยแล้วกัน 20 สี ราคาไม่ได้สูงมาก เราได้มา 560 บาท ตกด้ามละ 28 บาท จากร้าน Twin_stationery แถมยังได้ shopee coin มาอีกตั้ง 100 coin ใช้เป็นส่วนลดซื้อของครั้งถัดไปใน shopee เต็มๆ (รู้หลังจากที่จะซื้อของครั้งถัดไปแล้วงงว่า coin ตัวเองมาจากไปเยอะแยะ) ถ้าซื้อแยกแท่งเดียวๆ เราเห็นอยู่ที่ 30-38 บาท แล้วแต่ว่าด้ามจะมีลวดลายมากน้อยแค่ไหนค่ะ อ่อ ถึงแม้จะซื้อตั้ง 20 ด้ามทีเดียว แต่ไม่มี packaging มาให้นะคะ เราแอบเห็นบางร้านมี แต่ก็จะราคาสูงขึ้นอีกนิด ถ้ามีมาพร้อมก็จะดีเพราะจะได้เก็บอย่างเป็นระเบียบค่ะ ส่วนเราก็หากระเป๋าปากกามาใส่เอาค่ะ

เดี๋ยวเรามาดูที่ลักษณะทางกายภาพของเค้าละกันก่อนค่ะ (ใช้ภาษาดูทางการจัง 55+)

ลักษณะเป็นแบบกด เราชอบมากๆ มันเด้งดึ๋งๆ  ดีค่ะ ตอนคิดอะไรไม่ออก กด ปากกาเล่น เพลินมากๆ  แน่นอนว่าต้องมี clip ที่ไม่ก๊องแก๊ง หนีบใส่สมุดหรือกระเป๋าเสื้อได้จริง ไม่หักง่ายๆ ด้ามจับถนัดมือ มียางรองนิ้ว สีของที่กด ยางรองนิ้ว แล้วก็ clip เป็นสีตามสีหมึกค่ะ หยิบใช้ง่าย ไม่สับสนสีแน่นอนค่ะ

ต่อกันที่ขนาดของเส้นที่ได้ เท่าที่เราเห็นมีหลายขนาด 0.3, 04, 0.5,0.7 และ 1 mm. แต่ที่เราได้มาเป็นขนาด 0.5 mm. สำหรับเราที่ไม่ค่อยใช้ขนาดนี้ เพราะตัวหนังสือเราเล็ก ปกติจะใช้ 0.38 mm. ค่ะ ตัวหมึกถ้าหมดสามารถหาซื้อ refill มาเติมได้ไม่ต้องซื้อใหม่ทั้งด้ามค่ะ ราคาก็จะย่อมเยากว่าค่ะ

สีทั้งหมดที่เราได้มาค่ะ 

(ลืมสีน้ำตาลกับสีดำ หาไม่เจอค่ะ ToT)

เท่าที่ใช้มา เขียนลื่นมากๆ เส้นไม่มีขาด หมึกไหลสม่ำเสมอ แต่ข้อเสียอย่างเดียวเลยคือแห้งช้ามากกก

อย่างเราที่เป็นคนที่เขียนหนังสือเร็ว แปปๆ ขึ้นบรรทัดใหม่ ที่เขียนไปแล้วก็มีเลอะ แล้วก็เลอะติดมือด้วย

แต่ไม่ได้เลอะแบบหมึกซึมที่เปรอะเปื้อนไปหมดนะคะ เลอะใน level ที่ยังรับได้อยู่ค่ะ

เค้าจะมีอีกรุ่นที่เป็น SARASA DRY แบบหมึกแห้งเร็ว ยังไม่เคยลอง 

ถ้ามีโอกาสจะลองแน่นอนค่ะ อยากรู้ว่าแห้งเร็วกว่าจริงมั๊ย

สีทั้งหมดค่ะ จะเห็นว่าสีเทาเขียนไม่ออก แอบเซ็งเหมือนกันค่ะ

นอกจากนี้ยังมี SARASA milk ที่เป็น pastel, metallic แล้วก็ลายต่างๆ มีแบบลายและกลิ่นโดนท แต่ แพงอ่ะ  คิดว่าน่าจะไม่ค่อยได้ใช้เลยยังไม่ได้ซื้อมา ถ้าในอนาคตซื้อมาแล้วจะมา review ให้ดูนะคะ

ภาพรวมๆ เราให้ 4/5 หักตรงที่แห้งช้า นอกนั้นเราชอบหมดเลยค่ะ

แต่ว่าซื้อมาหลายๆสีแล้วก็ใชอยู่ไม่กี่สีเองค่ะ

จะพยายามหาโอกาสใช้ให้เยอะกว่านี้ จะได้คุ้มค่าที่ซื้อมา  Yeah!

เจอกันใหม่ blog หน้าค่ะ

XOXO