น้องสาวเราเรียนจบจากอังกฤษแล้ว
กลับบ้านครั้งนี้คือเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้ฝากซื้อของแล้วค่ะ ToT
จากปีแรกถึงปีสุดท้ายที่เราฝากซื้อของ เราก็เปลี่ยนจากการฝากซื้อเครื่องสำอาง
กลายเป็นฝากซื้อเครื่องเขียน อุปกรณ์ศิลปะแทน
แต่ยังมี skincare ที่ราคาถูกกว่าไทยเยอะมากๆ ด้วยค่ะ
ว่าแล้วก็ไปดูกันเลยยย
ได้มาน้อยชิ้น แต่หมดตังไปเยอะเหมือนกันค่ะ
มาที่ skincare ก่อนค่ะ
Estee Lauder Advance Night repair ราคา 45 ปอนด์
คิดเป็นเงินไทยไม่ถึง 3,000 บาทค่ะ
เอามาลองก่อนว่าดีจริงรึป่าวเนอะ ใกล้ 30 แล้ว ต้องดูแลตัวเองหน่อยค่ะ
ต่อด้วย Raroch Posay Effaclar Duo+, Effaclar K ตกหลอดละ 500 เองค่ะ
ตุนๆ ค่ะ ที่ไทยหลดละ 940 บาทแน่ะ
อันนี้เป็นของฝากจากน้องสาวค่ะ เพราะเราใช้แล้วชอบมากๆ
แต่ว่าไม่ยอมไปซื้อที่เคาท์เตอร์ซะที เพราะมันแพง
น้องสาวจัดมาจาก Duty Free ให้ค่ะ
Nars smudge proof eyeshadow base
ต่อด้วย Pixi Matte Last Luquid Lip
สี pasterl petal ราคาประมาณ 500 บาทค่ะ
ดูจาก youtube ของพี่โมเม เห็นเค้าว่าดี เราก็ว่าดีค่ะ 55+
ต่อที่เครื่องเขียนค่ะ
Tombow แบบนี้ที่ไทยขาย 110 แต่เราได้มาตกแท่งละ 50 บาทค่ะ
มี โปร ซื้อ 3 จ่าย 2 ค่ะ จัดมา 6 แท่ง แถมสีดำอีกแท่งนึงค่ะ
แอันนี้คือ embossing stamp pad นะคะ เอาไว้ใช้กับ
embossing powder แล้วก็ heat gun
เอาไว้สร้างลายนูนๆแบบใน youtube, IG ค่ะ
สีน้ำ Primar Marketing - Decadent Pies ค่ะ
ราคาประมาณพันนิดๆ ที่ไทยขาย 1,500 อัพ เลยอ่ะ
มีหลายพาเพเลทเลย ลองซื้อมาใช้ก่อนค่ะ
มาถึงของที่แพงที่สุดคือ Scmincke watercolor 24 colors ราคา 65 ปอนด์
เราติดตามผลงานของ คุณ Mateusz Urbanowicz ศิลปินชาวตุรกี
ที่อาศัยอยู่ญี่ปุ่น แล้วคือเค้าวาดรูป Tokyo Store fronts แบบน่ารักมากๆๆๆ
เค้าบอกว่าเค้าใช้ยี่ห้อนี้แหละ แต่เค้าใช้แบบ 48 สี
เราไปไม่ถึงจริงๆ ขอหยุดที่ 24 สีค่ะ
สุดท้ายค่ะ กระเป๋า Longchamp size L หูยาว ราคาประมาณ 2,500 บาทค่ะ
ลาก่อยยยย ลอนดอน
ToT
